สลดเพชรบูรณ์ ตาสารภาพ ฆ่าหลานชายวัย 2 ขวบ อ้างเครียดลูกสาวทิ้งลูกให้เลี้ยงหลายคนโดยไม่ส่งเงินมาให้ วันเกิดเหตุด.ช.ดันร้องไห้งอแง ปลอบเท่าไหร่ไม่หยุด เลยบีบคอจน แน่นิ่ง นำศพไปทิ้งอำพรางคดี แล้วบอกว่าหลานหายตัวไป ก่อนตร.และชาวบ้าน จะช่วยตามหาจนพบเป็นศพ ตร.สอบเครียดจนสุดท้ายยอมรับเป็นผู้ลงมือ นำตัวทำแผนหวิดวุ่น เจอชาวบ้านนับพันรุมด่า
จากกรณี ด.ช.สรวิศ หรือน้องวิศ อายุ 2 ขวบ หายไปจากบ้านพักในต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา แม้ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยต่างระดมกำลังกันออกค้นหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งวันที่ 25 ส.ค. ได้สนธิกำลังตำรวจ ทหาร อาสาสมัครกู้ภัยเจ้าพ่อกกไทร ร่วมกตัญญู สว่างมงคล และชาวบ้านกว่า 1,000 คน ระดมกันค้นแบบปูพรมทุกจุด นอกจากนั้นยังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านว่า บริเวณร่องน้ำหลัง ร.ร.บ้านซำภู ซึ่งเป็นป่าทึบมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาเป็นระยะ จึงเข้าไปตรวจค้นจนพบศพที่คาดว่าน่าจะเป็นศพของน้องวิศ ในสภาพเน่าเฟะและกระดูกโผล่ขาวโพลน จึงได้นำศพออกมาให้ จนท.ตร.และแพทย์เวร ชันสูตรศพร่วมกัน ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
สำหรับความคืบ หน้า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฎากุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และพ.ต.อ.สมศักดิ์ นาคอ้น ผกก.สภ.บ้านกลาง เชิญตัวนายสนั่น (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ตาของน้องวิศ มาสอบสวนอยู่หลายชั่วโมง กระทั่งนายสนั่นรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องวิศเอง
โดย นายสนั่นให้การว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเย็นของวันที่ 11 ส.ค. ขณะที่นางทองจันทร์ ผู้เป็นยายออกไปซื้อของที่ตลาด ส่วนตนนั่งไกวเปลหลานคนเล็กซึ่งนอนหลับอยู่ในเปล น้องวิศได้ร้องไห้กระจองอแงอยู่ตลอดเวลา บอกอย่างไรก็ไม่หยุด ด้วยความโมโห ประกอบ กับความเครียดที่มีต่อลูกสาวซึ่งไปทำงานกรุงเทพฯแล้วทิ้งลูกไว้ให้ตนเลี้ยง ถึง 4 คน ขณะที่ลูกคนอื่นในหมู่บ้านไปทำงานกรุงเทพฯ จะซื้อข้าวของกลับมาให้ทางบ้าน แต่ลูกสาวตนกลับทิ้งลูกให้เป็นภาระ จึงเกิดความโมโหตรงเข้าบีบคอกระทั่งเด็กเสียชีวิต
นายสนั่น ให้การอีกว่า หลังก่อเหตุกลัวความผิด จึงนำศพไปทิ้งไว้ที่กลางเขาห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร จากนั้นกลับมาบ้านเมื่อนางจันทร์กลับมา ก็แกล้งทำทีหาหลาน ไม่เจอ แล้วได้ให้ชาวบ้านมาช่วยกันค้นหาในสระน้ำ จากนั้นอาศัยช่วงชุลมุนประกอบกับเป็นเวลาค่ำ ได้ทำทีเป็นเดินหาเด็กแล้วก็แอบเอาศพไปทิ้งในร่องน้ำซึ่งลึกเข้าไปในป่าอีก เกือบ 1 กิโลเมตร แล้วกลับออกมาแสร้งทำทีว่าหาไม่เจอ กระทั่งหลายวันผ่านไปเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้ระดมค้นหาจนในที่สุดก็พบ ศพดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา อำพรางเคลื่อนย้ายศพ และแจ้งความเท็จ
จากนั้นควบคุมตัวนาย สนั่นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางประชาชนมาเฝ้าดูนับพันคนพร้อมทั้ง ตะโกนสาปแช่งไปต่างๆ นานา ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย มาคอยควบคุมสถานการณ์เพราะเกรงว่าจะเกิดการทำร้ายผู้ต้องหา แต่การทำแผนก็ผ่านไปด้วยดีโดยไม่มีเหตุร้ายแต่อย่างใด
http://www.khaosod.co.thสำหรับความคืบ หน้า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฎากุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และพ.ต.อ.สมศักดิ์ นาคอ้น ผกก.สภ.บ้านกลาง เชิญตัวนายสนั่น (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ตาของน้องวิศ มาสอบสวนอยู่หลายชั่วโมง กระทั่งนายสนั่นรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องวิศเอง
โดย นายสนั่นให้การว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเย็นของวันที่ 11 ส.ค. ขณะที่นางทองจันทร์ ผู้เป็นยายออกไปซื้อของที่ตลาด ส่วนตนนั่งไกวเปลหลานคนเล็กซึ่งนอนหลับอยู่ในเปล น้องวิศได้ร้องไห้กระจองอแงอยู่ตลอดเวลา บอกอย่างไรก็ไม่หยุด ด้วยความโมโห ประกอบ กับความเครียดที่มีต่อลูกสาวซึ่งไปทำงานกรุงเทพฯแล้วทิ้งลูกไว้ให้ตนเลี้ยง ถึง 4 คน ขณะที่ลูกคนอื่นในหมู่บ้านไปทำงานกรุงเทพฯ จะซื้อข้าวของกลับมาให้ทางบ้าน แต่ลูกสาวตนกลับทิ้งลูกให้เป็นภาระ จึงเกิดความโมโหตรงเข้าบีบคอกระทั่งเด็กเสียชีวิต
นายสนั่น ให้การอีกว่า หลังก่อเหตุกลัวความผิด จึงนำศพไปทิ้งไว้ที่กลางเขาห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร จากนั้นกลับมาบ้านเมื่อนางจันทร์กลับมา ก็แกล้งทำทีหาหลาน ไม่เจอ แล้วได้ให้ชาวบ้านมาช่วยกันค้นหาในสระน้ำ จากนั้นอาศัยช่วงชุลมุนประกอบกับเป็นเวลาค่ำ ได้ทำทีเป็นเดินหาเด็กแล้วก็แอบเอาศพไปทิ้งในร่องน้ำซึ่งลึกเข้าไปในป่าอีก เกือบ 1 กิโลเมตร แล้วกลับออกมาแสร้งทำทีว่าหาไม่เจอ กระทั่งหลายวันผ่านไปเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้ระดมค้นหาจนในที่สุดก็พบ ศพดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา อำพรางเคลื่อนย้ายศพ และแจ้งความเท็จ
จากนั้นควบคุมตัวนาย สนั่นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางประชาชนมาเฝ้าดูนับพันคนพร้อมทั้ง ตะโกนสาปแช่งไปต่างๆ นานา ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย มาคอยควบคุมสถานการณ์เพราะเกรงว่าจะเกิดการทำร้ายผู้ต้องหา แต่การทำแผนก็ผ่านไปด้วยดีโดยไม่มีเหตุร้ายแต่อย่างใด
