Thursday, August 20, 2015

Unknown

แก๊งเงินกู้โหดบุกถีบและเขวี้ยงขวดใส่หน้าบ้าน (มีคลิป)

จากกรณีที่เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 19 ส.ค.58 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ทวี เหลาเคน สวป.สภ.เมืองสมุทรปราการได้พร้อมเจ้าหน้าตำรวจสายตรวจ เข้าไปตรวจสอบยังที่ อาคารพาณิชย์หลังหนึ่งในหมู่บ้านทรัพย์รุ่งเรือง หมู่ 5 ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังถูกชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นแก๊งค์ทวงเงินกู้ นอกระบบ จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้าน ก่อนคนซ้อนท้ายจะลงมาใช้เท้าถีบประตู และหยิบขวดแก้วเขวี้ยงใส่ประตูจนได้รับความเสียหายแล้วหลบหนีไป



แล้ว เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (วันที่ 20 ส.ค.58) นายอานนท์ สุขเจริญ อายุ 46 ปี ได้พาผู้สื่อข่าว ดูร่องรอย ความเสียหาย บริเวณประตูเหล็กม้วนหน้า โดยกล้องวงจรปิดได้บันทึกพฤติกรรมของแก๊งค์ทวงเงินกู้รายนี้ได้ทั้งหมด เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 20.40 น.ของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ ขนาด 3 ชั้นครึ่ง ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง และ น้ำหวาน เมื่อตรวจสอบบริเวณประตูพบมีรอยบุบเสียหาย ส่วนบริเวณชั้นวางของพบขวด น้ำหวานล้มระเยระนาด
นายอานนท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 58 ที่ผ่านมา ภรรยาตน ได้ไปกู้เงิน นอกระบบจากเจ้าหนี้รายหนึ่ง ในจำนวนเงิน 15,000 บาท และได้ทำสัญญา ตกลงยินยอมจ่ายค่า ดอกเบี้ยแบบลอยวันละ 300 บาท จนกว่าลูกหนี้จะมีเงินสด มาปิดเงินต้นทั้งหมด ต่อมาหลังจาก ภรรยาตนได้รับเงินจำนวน 15,000 มาแล้ว ภรรยาก็ยินดีจ่ายเงิน 300 บาท ให้กับแก๊งเงินกู้ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บทุกวันโดยไม่เคยขาดส่ง กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาตน ได้ออกไปทำธุระ นอกบ้าน ตนจึงได้ปิดร้านขายของเร็วกว่าปกติ ก่อนที่จะพาลูกชายและลูกสาว เข้านอนในห้องพัก ต่อมา ก็ได้ยินเสียงชายตะโกนเรียกชื่อภรรยาพร้อมกับโวยวายด่าทอด้วยคำ หยาบคาย พร้อมกับเรียกให้ภรรยาตนออกไปพบ ด้วยความตกใจเกรงว่าลูกๆ จะได้รับอันตราย ตนจึงไม่กล้าเดินออกไป พร้อมกับได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ จากนั้นหลังเจ้าหน้าที่ เดินทางมาถึงจึงได้เดินออกไปสำรวจพบว่าประตูได้รับความเสียหาย แต่ตนก็ไม่ได้เดินทางมา แจ้งความ ที่โรงพัก เนื่องจากเกรงว่า แก๊งทวงเงินกู้จะมาตามราวีไม่เลิก อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากให้วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไป เป็นตัวกลางไกล่เกลี้ยเรียกเจ้าหน้าหนีเงินกูนอกระบบรายนี้มาเจรจา เนื่องจากดอกเบี้ยลอยที่จ่าย ไปวันละ 300 บาท ตั้งแต่เดือน ก.พ.58 เมื่อรวมแล้วกันแล้วมากกว่า 60,000 บาท จึงอยากให้เจ้าหนี้ยอมลดเงินต้นให้ทั้งหมด เพราะขณะนี้ครอบครัวก็เดือดร้อนมาก